เที่ยวแก่งกระจาน

เที่ยวแก่งกระจานกันเถอะ

ผมเริ่มออกเดินทางจากสมุทรปราการ ตอน 9:10 น. ไปแวะกินข้าวกลางวันที่หาดเจ้าสำราญตอน 13:20 น. และเล่นน้ำทะเลที่หาดเจ้าสำราญ และหลังจากนั้นก็ออกจากหาดเจ้าสำราญตอน 15:30 น. มุ่งหน้าไปซื้อของที่บิ๊กซี(ไก่สด ผลไม้และอื่นๆ เตรียมเอาไปกินที่ อช.แก่งกระจาน) 

          หลังจากนั้นผมก็รีบออกจากบิ๊กซีเพื่อมุ่งหน้าไปแก่งกระจาน *ผมขอแนะนำทุกท่านนะครับว่าถ้าอยากจะไปเล่นน้ำที่ทะเล อย่าไปแวะดีกว่าครับ นี่ผมไม่ได้ว่าหาดเจ้าสำราญไม่น่าเที่ยวนะครับ แต่ว่าที่ อช.มีกิจกรรมให้ทำเยอะครับ* ผมขอแนะนำคนที่อยากเล่นน้ำให้ไปเล่นที่แก่งดีกว่าครับ จะมีป้ายบอกอยู่ข้างทางก่อนถึง เขื่อนอะครับ 

     และแล้วผมก็ถึง อช.ตอน16:45 น. ซึ่งมันก็ไกล้จะมืดแล้ว พวกผมก็เลยรีบไปเช่าเตนท์และเครื่องนอนครับ(โชคดีที่ไปช่วงคนน้อยเตนท์เลยมีอยู่ ถ้าเป็นช่วงฤดูหนาวนี่อาจจะต้องโทรไปติดต่อกับทางอุทยานก่อน) พอเสร็จแล้วผมก็รีบไปยังสถานที่กางเตนท์ครับ ซึ่งผมเลือกกางเตนท์ที่ริมอ่างเก็บน้ำบริเวณใกล้ๆลานจอด เฮลิคอปเตอร์ 

(นี่คือภาพตอนที่น้ำเต็มอ่างเก็บน้ำนะครับ แต่ตอนที่ผมไปน้ำมันแห้งจนลงไปเดินข้างล่างได้เลย)

และแล้วผมก็รีบกางเตนท์

พอเสร็จแล้วก็ยังพอมีเวลาลงไปเดินเล่น *แต่เวลาลงไปในอ่างเก็บน้ำที่แห้ง คุณต้องระวังด้วยนะครับเพราะมันมักจะมีสัตว์มีพิษอยู่มากมาย มันมักจะอยู่ตามซอกหิน*

ผมก็มีภาพมาฝากครับ ก็สวยดีนะครับ

และในตอนกลางคืนผมก็นั่งฉลองกันครับ บรรยากาศใช้ได้เลย แหงนดูดาวอากาศเย็นสบาย เตรียมตื่นเช้าเพื่อไปสำรวจต่อ 

ในตอนกลางคืน

และแล้วผมก็หลับในเวลา 23:50 น.

ผมตื่นเช้าในเวลา 5:30 น.และเดินไปเข้าห้องน้ำ

เรื่องห้องน้ำนี่ไม่ต้องห่วงเลยครับ สะอาด น้ำไหลแรง

 และตอนสายผมก็ไปเดินสะพานแขวนครับ

 และหลังจากนั้นก็ผมก็เดินทางกลับบ้านครับ

ชมรมคนล่านก

คนล่านก(The Bird Survey)

ชมรม คนล่านก ตั้งขึ้นมาเพื่อศึกษาและอนุรักษ์นกพื้นเมืองและนกพันธ์ที่หาดูได้ยาก หรือนกที่ใกล้จะสูญพันธ์ ชมรมเราจะไปตามอุทยานต่างๆหรือป่าลึก ที่มีนกสายพันธ์แปลกๆหรือหาดูได้ยากเพื่อศึกษาและค้นคว้าความรู้ในเรื่องของนก และเราจะรณรงค์ไม่ให้นกเหล่านี้สูญพันธ์

นกขมิ้นท้ายทอยดำ 

เจ้าขมิ้นตัวที่ อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท



นกระจิบธรรมดา(ตัวเมีย)

นกปรอดสวน

เอารูปไปดูกันแค่นี้ก่อนนะครับเดี๋ยวรอดูผลงานเรา เราจะให้ความรู้เรื่องนกที่คุณไม่รู้อีกมากมาย

เจอกัน!!!!! ^_^

เศรษฐศาสตร์จุลภาค

ตลาด

ตลาด หมายถึง สถานที่ใดๆก็ตามที่สามารถซื้อขายสินค้าและบริการได้ แต่คำว่าตลาดในความหมายทางเศรษฐศาสตร์ นั้น หมายถึง กิจกรรมซื้อขายระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย โดยไม่ต้องคำนึงถึงสถานที่ สามารถซื้อขายได้ทุกที่ ทุกเวลา เช่น ในเว็บไซต์ ทางจดหมาย ทางโทรสารหรือโทรศัพท์ เป็นต้น

ตลาดแบ่งเป็น 2 ประเภท
ประเภทที่ 1 ตลาดแข่งขันสมบูรณ์ มีลักษณะสำคัญ 5 ประการ
 1) ผู้ซื้อและผู้ขายมีจำนวนมาก
 2)สินค้ามีลักษณะเหมือนกันมาก
 3)ผู้ผลิตสามารถเลิกล้มกิจการได้โดยง่ายและผู้ผลิตรายใหม่เข้าสู่ตลาดได้ง่าย
 4)สินค้าสามารถโยกย้ายไปยังภูมิภาคได้อย่างเต็มที่
 5)ข้อมูลเกี่ยวกับตลาดเป็นที่เปิดเผยทั่วไป

ประเภทที่ 2 ตลาดแข่งขันไม่สมบูรณ์
1.ตลาดกึ่งแข่งขันกึ่งผูกขาด
  1.1)ผู้ซื้อและผู้ขายมีจำนวนมาก
  1.2)สินค้ามีลักษณะแตกต่างกัน
  1.3)การเข้าและออกจากการผลิตเป็นไปโดยเสรี
2.ตลาดผู้ขายน้อยราย
  2.1)การใช้ทุนในการผลิตจำนวนมาก
  2.2)สิ่งกีดขวางการเข้ามาในอุตสาหกรรมของธุรกิจใหม่
  2.3)ความภักดีต่อยี่ห้อและชื่อเสียงของสินค้า
  2.4)การรักษาราคาให้อยู่ในระดับต่ำ
3.ตลาดผูกขาด ตลาดชนิดนี้ผู้ผลิตอาจต้องได้รับอนุญาตหรือสิทธิพิเศษจากรัฐบาล
เช่น รถไฟฟ้า ไฟฟ้า ประปา เป็นต้น

 

 

ภาพสวยๆ เอามาฝากกันครับ

เขาใหญ่ตอนเช้า(แถวๆ ที่กางเตนท์ลำตะคอง)



เขาใหญ่ตอนเช้า(แถวๆ ที่กางเตนท์ลำตะคอง)2

 

 

 ลำน้ำใน อ.อุทัย จ.อยุธยา(หน้าน้ำท่วม)

 อช.แม่วงศ์

 

 ผาเดียวดาย

 

 ภาพจากบนเขาธรรมมูญ จ.ชัยนาท

 

   

อริยสัจ 4

อริยสัจ 4

อริยสัจ 4 คือหัวใจของธรรมทั้งหลายที่พระพุทธเจ้าได้ทรงตรัสไว้  เป็นหนทางแห่งการดับทุกข์ ซึ่งถ้าใครปฏิบัติตามจนเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งหรือเห็นจริงตามนั้นทุกประการ ก็จะทำให้ผู้นั้นพ้นทุกข์ได้ การพ้นทุกข์ในที่นี้หมายถึงการหลุดออกจากวงจรการ เกิด แก่ เจ็บ และการตาย หลายคนอาจถามว่าหลุดแล้วจะไปไหน ผมตอบได้เลยว่าหลุดแล้วก็จะได้ไปนิพพานนั่นเองครับ "ผู้ที่จะไปนิพพานได้ คือ ผู้ที่เป็นพระอรหันต์หรือผู้ที่บรรลุอริยสัจ 4 นั่นเอง"

 

อริยสัจ 4 ประกอบไปด้วยสี่ข้อดังนี้

1.ทุกข์    คือ ความไม่สบายทั้งหลายหรือการที่เราไม่มีความสุข เช่น การยึดติดในขันธ์ 5 การเจ็บไข้ไม่สบาย การเกิด แก่ เจ็บ ตาย การสูญเสียคนที่เรารัก เป็นต้น

 

2.สมุทัย  คือ เหตุที่ทำให้เกิดความทุกข์

 

3.นิโรธ  คือ ผลของการดับทุกข์ คือความดับไปซึ่งความทุกข์จึงทำให้เรามีความสุข

 

4.มรรค  คือ หนทางหรือแนวทางการปฏิบัติที่จะนำไปสู่ความดับทุกข์



ดาวพุธ mercury

ดาวพุธเป็นดาวเคราะห์ที่อยู่ใกล้ดวงอาทิตย์มากที่สุด และเป็นดาวเคราะห์ที่เล็กที่สุดในระบบสุริยะ ใช้เวลาโคจรรอบดวงอาทิตย์ 87.969 วัน ดาวพุธมักปรากฏใกล้ หรืออยู่ภายใต้แสงจ้าของดวงอาทิตย์ทำให้สังเกตเห็นได้ยาก ดาวพุธไม่มีดาวบริวาร ยานอวกาศเพียงลำเดียวที่เคยสำรวจดาวพุธในระยะใกล้คือยานมาริเนอร์ 10เมื่อปี พ.ศ. 2517-2518 (ค.ศ. 1974-1975) และสามารถทำแผนที่พื้นผิวดาวพุธได้เพียง 40-45% เท่านั้น
   ดาวพุธมีสภาพพื้นผิวขรุขระเนื่องจากการพุ่งชนของอุกกาบาต และไม่มีดวงจันทร์เป็นบริวารและไม่มีแรงโน้มถ่วงมากพอที่จะสร้างชั้นบรรยากาศ ดาวพุธมีแกนกลางเป็นเหล็กขนาดใหญ่ทำให้เกิดสนามแม่เหล็กความเข้มประมาณ 1 เปอร์เซ็นต์ของสนามแม่เหล็กโลกล้อมรอบดาวพุธไว้
   ดาวพุธมีแก่นที่ประกอบด้วยเหล็กในสัดส่วนที่สูง (แม้เมื่อเปรียบเทียบกับโลก) เป็นโลหะประมาณ 70% ที่เหลืออีก 30% เป็นซิลิเกต ความหนาแน่นเฉลี่ยมีค่า 5,430 กิโลกรัม/ลูกบาศก์เมตร ซึ่งน้อยกว่าความหนาแน่นของโลกอยู่เล็กน้อย สาเหตุที่ดาวพุธมีเหล็กอยู่มากแต่มีความหนาแน่นต่ำกว่าโลก เป็นเพราะในโลกมีการอัดตัวแน่นกว่าดาวพุธ ดาวพุธมีมวลเพียง 5.5% ของมวลโลก แก่นที่เป็นเหล็กมีปริมาตร ราว 42% ของดวง (แก่นโลกมีสัดส่วนเพียง 17%) ล้อมรอบด้วยเนื้อดาวหรือแมนเทิลหนา 600 กิโลเมตร

ต่อหัวเสือ

ต่อและวิธีแก้พิษ

1. ต่อ



 

    ต่อหัวเสือ ลำตัวมีสีดำแต้มด้วยสีเหลือง หรืออาจมีสีน้ำตาล ท้องมีแถบสีส้มปนเหลืองเห็นได้ชัดเจน มีขนาดลำตัว 2.7 -3.50 เซนติเมตร มีปีกสีน้ำตาลบางใส 2 คู่ ปีกคู่หลังมีขนาดเล็กกว่าปีกคู่หน้ามาก มีเขี้ยวที่กางออกทางข้าง 2 ข้าง ต่อหัวเสือ เป็นแมลงนักล่าที่น่าเกรงขาม สีเหลืองของมันบ่งบอกถึงภัยอันตราย สีดำแทนความแข็งแกร่งอดทนของมัน

    รังต่อหัวเสือ จะร้างราวช่วงเดือน ตุลาคม ถึง ธันวาคม เนื่องจาก เมื่อนางพญาหมดอายุขัย และนางพญาใหม่ที่เกิดขึ้น จะออกหาคู่ และไปสร้างอาณาจักรของพวกมันเอง ทิ้งพี่/น้องของมันให้ผจญชะตากรรม จากสภาพที่ไร้ผู้ปกครอง ที่รอแต่จะแตกสลายไปในเวลาไม่นาน

 

 

วิธีแก้พิษ

 จะเล่าถึงประสบการณ์ก่อนนะครับ คือตอนนั้นเป็นวันสงกรานต์ และผมกำลังเดินกลับบ้านโดยที่ถือร่มอยู่ในมือไปด้วย แต่ว่าผมเดินเฉยๆไม่เป็น ตอนนั้นผมเดินไปพร้อมกับแกว่งร่มไปมาโดยที่ไม่เห็นรังต่อว่าอยู่ใกล้ๆ พอแกว่งไปแกว่งมาร่มมันก็ไปโดนเอารังต่อเข้าโดยที่ผมไม่รู้ตัว พอโดนรัง นางพญาต่อก็บินออกมาและก็ต่อยเข้าที่นิ้วของผม ตอนนั้นผมตกใจและปวดมาก ผมใช้วิธีบีบตรงข้อต่อนิ้วแบบแน่นๆ เพื่อไม่ให้พิษมันกระจายออกไปที่มือ และรีบเดินกลับบ้าน พอกลับถึงบ้านจึงรีบทายาหม่องเสลดพังพอน และหลังจากนั้นก็ทุเราลงเอง  (เวลาไปไหนควรพกยาหม่องเสลดพังพอนไว้บ้างก็ดีนะครับ ช่วยแก้พิษของสัตว์มีพิษต่างๆได้ )

วิธีนี้จะไม่ค่อยเป็นวิธีที่ดีสักเท่าไร แต่ก็เป็นการปฐมพยาบาลเบื้องต้นได้ดี

 

วิธีที่ถูกต้อง

1.ก่อนอื่นต้องตั้งสติไม่ให้ตื่นเต้น เพราะถ้าตื่นเต้นจะทำให้พิษถูกสูบฉีดเร็วขึ้น

2.ต้องรีบบีบหรือรัดบริเวณเหนือแผลและใต้แผล เพื่อไม่ให้พิษมันกระจายไปสู่ที่อื่น

3.ทายาหม่องเสลดพังพอนหรือถ้ามีต้นเสลดพังพอนได้ยิ่งดีให้ทาบริเวณที่โดนต่อย

4.หลังจากนั้นรอดูอาการว่าเบาปวดหรือป่าว ถ้ายังปวดอยู่ก็รีบพาไปพบแพทย์

 

 แต่บางคนที่มีภูมิต้านทานอยู่แล้วจะไม่เป็นไรมากนัก